หลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง
จัดโดย ศูนย์ความเป็นเลิศการุณรักษ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
-
ราชวิทยาลัยที่กำกับดูแล:
ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทย -
ชื่อสาขา: ก) สาขาประเภทที่ 3
-
ภาษาไทย: เวชศาสตร์ประคับประคอง
-
ภาษาอังกฤษ: Palliative Medicine
-
ชื่อหนังสือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
-
ชื่อเต็ม (ไทย):
วุฒิบัตรเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง -
ชื่อเต็ม (อังกฤษ):
Diploma, Thai Subspecialty Board of Palliative Medicine -
ชื่อย่อ:
-
ภาษาไทย: วว. อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง
-
ภาษาอังกฤษ: Dip., Thai Subspecialty Board of Palliative Medicine
-
พันธกิจของแผนการฝึกอบรม
มุ่งผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคองที่มีความสามารถในการ:
- ดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคองที่มีความซับซ้อนอย่างครอบคลุม
- ให้คำปรึกษาแก่แพทย์สาขาอื่นและทีมสุขภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดูแลแบบประคับประคองในบริบทที่หลากหลาย
- ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการประสานงานเครือข่ายการดูแลระหว่างโรงพยาบาล บ้าน และชุมชน
- บริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดูแลผู้ป่วย
- สร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการดูแลแบบประคับประคอง
- พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของทีมสุขภาพและอาสาสมัครให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็น
- มีเจตนารมณ์แห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถพัฒนาไปสู่บทบาทผู้นำในการกำหนดทิศทางของระบบสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง
- แสดงพฤติกรรมวิชาชีพที่เหมาะสมต่อเพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วย และญาติ
- ปฏิบัติงานสอดคล้องกับความต้องการด้านสาธารณสุขของประเทศไทย
คุณสมบัติผู้เข้าอบรม
ศูนย์การุณรักษ์มีการประกาศรับสมัครแพทย์ประจำบ้านต่อยอดที่เว็บไซต์และเพจของศูนย์การุณรักษ์ตามรอบปีการศึกษา โดยผู้สมัครเข้ารับการฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. ๒๕๒๕
- ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ในสาขาใดสาขาหนึ่งดังต่อไปนี้
- สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว
- สาขาจิตเวชศาสตร์
- สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา
- สาขาอายุรศาสตร์และอนุสาขา
- สาขาวิสัญญีวิทยา
- สาขาสูตินรีเวชวิทยา
- สาขาศัลยศาสตร์
- สาขากุมารเวชศาสตร์
- สาขาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์
- สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
- สาขาอายุรศาสตร์โรคเลือด
- สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- สาขาจักษุวิทยา
- สาขาโสต ศอ นาสิก
หมายเหตุ สาขาอื่น ๆ ให้อิงตามมติของอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบฯ อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง
สำเร็จการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือไม่มีพันธะการชดใช้ทุนกับต้นสังกัด หรือต้นสังกัดมีหนังสือยินยอมให้มาฝึกอบรม
ศูนย์การุณรักษ์ได้ตั้งคณะกรรมการการคัดเลือกแพทย์ประจำบ้านต่อยอดที่ประกอบด้วย คณาจารย์ที่มีหน้าที่ดูแลแพทย์ประจำบ้านต่อยอดที่มีประสบการณ์ และตัวแทนแพทย์ประจำบ้านต่อยอด ทำหน้าที่คัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกที่ชัดเจน เสมอภาค โปร่งใส การตัดสินการคัดเลือกแพทย์ที่ได้รับเข้าอบรม พิจารณาตามข้อกำหนดต่าง ๆ ดังนี้
- หนังสือรับรอง (Letter of recommendation) ประวัติความประพฤติ ความรับผิดขอบ
- หนังสือแนะนำตัว (Personal statement) และประสบการณ์ทำงานด้านการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง
- ต้นสังกัด
- คะแนนจากการสอบสัมภาษณ์
การคัดเลือกจะใช้วิธีเรียงลำดับคะแนนตามจำนวนแพทย์ที่รับได้ และกรณีที่คะแนนใกล้เคียงกันจะขึ้นกับดุลยพินิจของคณะกรรมการคัดเลือก ผลการคัดเลือกจะถูกนำเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์ฯ เพื่อสรุปผู้ได้รับคัดเลือก ก่อนส่งผลไปยังราชวิทยาลัยฯ และแพทยสภาเพื่อประกาศผลการคัดเลือกต่อไป หากผู้สมัครต้องการอุทธรณ์ผลการคัดเลือกสามารถทำได้โดยการยื่นคำร้องเพื่อขอตรวจสอบคะแนนได้ โดยติดต่อที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ หลังการประกาศผลการคัดเลือกอย่างเป็นทางการภายใน ๕ วันทำการ
ผลลัพธ์และระยะเวลาฝึกอบรม
การฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางอนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคองใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรมทั้งสิ้น ๒ ปี โดยเมื่อสิ้นสุดการฝึกอบรมแพทย์ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีคุณสมบัติ และความรู้ความสามารถขั้นต่ำตามสมรรถนะหลักทั้ง ๖ ด้านดังต่อไปนี้
การบริบาลผู้ป่วย (Patient care)
- ประเมินลักษณะทางคลินิกของโรค ปัญหาสุขภาพและการดำเนินโรคและการพยากรณ์โรคที่พบในผู้ป่วยระยะประคับประคอง
- ตรวจหาสาเหตุและวิเคราะห์โรคและปัญหาสุขภาพที่สำคัญที่พบในผู้ป่วยระยะประคับประคอง (Patient investigation)
- ให้การดูแลรักษาภาวะหรืออาการต่าง ๆ ที่พบในผู้ป่วยระยะประคับประคอง (Symptom palliation) เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ทั้งการดูแลที่เป็นการใช้ยา เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ การแพทย์ทางเลือกและแบบผสมผสาน และวิธีการดูแลอื่นที่จำเป็น โดยอ้างอิงจากเวชปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์
- ดูแลสุขภาพของผู้ป่วยระยะประคับประคองและครอบครัวอย่างเป็นองค์รวม (Holistic care)
- ให้การป้องกันและดูแลภาวะแทรกซ้อนหรือภาวะเร่งด่วน ที่สำคัญในผู้ป่วยระยะประคับประคอง
- ให้การดูแลผู้ป่วยและครอบครัวเมื่อผู้ป่วยใกล้จะเสียชีวิต (Impending death and peri-death management)
- ประเมิน ติดตาม และดูแลสมาชิกครอบครัวหรือผู้ดูแลที่มีภาวะเศร้าโศก รวมทั้งสามารถทำงานประสานกับวิชาชีพอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวัง ติดตามดูแลครอบครัวหรือผู้ดูแลที่มีภาวะเศร้าโศกที่ผิดปกติได้อย่างเหมาะสม (Grief and bereavement care)
- ให้การดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง ผู้ดูแล หรือครอบครัวที่บ้าน (Home-based palliative care) หรือในชุมชนได้อย่างเหมาะสม (Community-based care)
- ให้การดูแลโดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของผู้ป่วยประคับประคองที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มคนชายขอบ
ความรู้และทักษะหัตถการทางเวชกรรม (Medical Knowledge and Procedural Skills)
- ความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานของร่างกายและจิตใจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง เช่น ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน สรีรวิทยา พยาธิวิทยา และเภสัชวิทยาคลินิก เป็นต้น
- ความรู้ ความเชี่ยวชาญในโรคหรือปัญหาสุขภาพที่สำคัญในผู้ป่วยระยะประคับประคอง
- มีทักษะในวิชาชีพ สามารถทำหัตถการที่จำเป็นต่อการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคองได้ด้วยตนเอง
- ความรู้ทางด้านกฎหมาย หลักการทางจริยธรรม และแนวทางการตัดสินใจด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง
- ความรู้ทางด้านผลกระทบของความตาย กับค่านิยมของสังคม วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนาและความเชื่อที่เกี่ยวข้อง ตามบริบทของชุมชน
ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (Interpersonal and Communication Skills)
- สื่อสารกับผู้ป่วยและครอบครัวโดยใช้หลักการสื่อสารทางคลินิก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่เหมาะสมระหว่างแพทย์ ผู้ป่วย และครอบครัวผู้ป่วย (Doctor-patient-family relationship)
- สื่อสารให้ข้อมูลสภาวะโรค การดำเนินโรค ทางเลือกของการรักษาและการรักษาที่จะได้รับ และให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกแนวทางการดูแลรักษาของตนเอง รวมทั้งเพื่อวางแผนการดูแลทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อเนื่องจนผู้ป่วยเสียชีวิต
- สื่อสารกับผู้ป่วยและครอบครัวในสถานการณ์ที่พบบ่อยหรือซับซ้อนในการดูแลแบบประคับประคอง
- เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่แพทย์และบุคลากรอื่น โดยเฉพาะด้านการดูแลแบบประคับประคอง
- สามารถถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แพทย์ นักศึกษาแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชากรในชุมชนที่รับผิดชอบ
- สามารถสร้างความตระหนัก สนับสนุนชี้นำ (Health advocacy) ให้แก่ผู้ป่วย ครอบครัวและชุมชน
การเรียนรู้และการพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (Practice-based Learning and Improvement)
- เรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ได้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ
- วิพากษ์บทความและงานวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวข้องกับการดูแลแบบประคับประคองได้ และนำหลักฐานเชิงประจักษ์มาประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยและครอบครัว
- ประสานการทำงาน และวางแผนการดูแลร่วมกับทีมสหวิชาชีพอื่น เพื่อให้การดูแลครอบคลุมทุกมิติของสุขภาพผู้ป่วยและครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ
- มีทักษะในการดูแลตนเอง (Self-care) และพัฒนาตนเองให้มีความยืดหยุ่น (Resilience) สามารถดูแลและรับมือความสูญเสียของตนเอง หรือความสูญเสียที่เกิดจากประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยและครอบครัว
- ดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการดูแลแบบประคับประคองได้
ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม (Professionalism)
- มีคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติที่ดีต่อผู้ป่วย ครอบครัวของผู้ป่วย ชุมชน และผู้ร่วมงานสหวิชาชีพ โดยคำนึงถึงหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพและกฎหมาย
- มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
- มีความสนใจใฝ่รู้และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตและพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง (continue medical education and professional development)
- คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมและจริยธรรมทางการแพทย์
การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (Systems-based Practice)
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศไทยและนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง
- มีความเข้าใจเรื่องหลักการประกันคุณภาพ ระบบประเมินและพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย และสามารถร่วมดำเนินการพัฒนาคุณภาพตลอดจนความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร (Patient and personnel safety) อย่างต่อเนื่อง
- มีความรู้เรื่องรูปแบบและการพัฒนาบริการการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายที่เหมาะสมในแต่ละบริบท เช่น ในโรงพยาบาล ที่บ้าน สถานดูแลผู้ป่วยระยะท้าย (Hospice) การดูแลด้วยเครือข่ายภายในชุมชน รวมทั้งวิธีการส่งต่อระหว่างระบบบริการและการจัดการทรัพยากรสุขภาพที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย และมีความสามารถในการทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และมีความสามารถในการนำทีมและบริหารจัดการทีม
- มีความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำ และสามารถเป็นผู้นำในทีมสุขภาพ การทำงานร่วมกับหน่วยงานนอกองค์กรและชุมชน (Leadership)
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยี (Information management and technology) เพื่อนำมาใช้ในการดูแลผู้ป่วยหรือพัฒนาระบบบริการ
📘 ดาวน์โหลดคู่มือหลักสูตร
ชื่อเอกสาร:
หลักสูตรและเกณฑ์การฝึกอบรม วุฒิบัตรเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
อนุสาขาเวชศาสตร์ประคับประคอง ศูนย์การุณรักษ์ พ.ศ. ๒๕๖๘
📥 ดาวน์โหลด: คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด